ประเภทของเอกเทศสัญญา

  • สัญญาซื้อขาย คือ สัญญาซึ่งบุคคลฝ่ายหนึ่ง เรียกว่า ผู้ขาย โอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์ให้แก่บุคคลหนึ่ง เรียกว่า ผู้ซื้อ และผู้ซื้อตกลงว่าจะใช้ราคาทรัพย์สินนั้นให้กับผู้ขาย
  • สัญญาแลกเปลี่ยน คือ สัญญาซึ่งคู่กรณีต่างๆ โอนกรรมสิมธิ์แห่งทรัพย์สินให้กันและกัน
  • สัญญาให้ คือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้ให้ โอนทรัพย์สินของตนให้โดยเสน่หาแก่บุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้รับ และผู้รับยอมรับเอาทรัพย์สินนั้น
  • สัญญาเช่าทรัพย์ คือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้ให้เช่า ตกลงให้อีกบุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้เช่า ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งชั่วระยะเวลาอันมีจำกัด และผู้เช่าตกลงจะให้ค่าเช่าเพื่อการนั้น
  • สัญญาเช่าซื้อ คือ สัญญาซึ่งเจ้าของเอาทรัพย์สินออกมาให้เช่า และให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินนั้น หรือว่าจะให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นสิทธิ์แก่ผู้เช่าตามเงือนไขที่กำหนด
  • สัญญาจ้างแรงงาน คือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า ลูกจ้างตกลงจะทำงานให้แก่บุคคลหนึ่งที่เรียกว่า นายจ้าง ตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาที่ทำงาน
  • สัญญาจ้างทำของ คือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่ง เรียกว่า ผู้รับจ้าง ตกลงรับจ้างทำงานสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่อีกบุคคลหนึ่ง เรียกว่า ผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเมื่อทำงานสำเร็จ
  • สัญญารับขนของและคนโดยสาร ผู้มีหน้าที่รับขน เรีกว่าผู้ขนส่ง รับขนส่งของหรือคนโดยสารเพื่อเพื่อบำเหน็จเป็นทางค้าปกติของตน
  • สัญญายืมใช้คงรูป คือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้ให้ยืมให้บุคคลอีกคน เรียกว่า ผู้ยืมใช้สอยทรัพย์สิน ได้เปล่า และผู้ยืมตกลงจะคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อได้ใช้สอยเสร็จแล้ว และสัญญายืมใช้สิ้นเปลือง คือ สัญญาซึ่งผู้ให้ยืมโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินชนิดใช้ไปสิ้นเปลืองเป็นปริมาณมีกำหนดให้กับผู้ยืม และผู้ยืมตกลงว่าจะคืนทรัพย์สินเป็น ประเภท ชนิด และปริมาณเช่นเดียวกัน แทนทรัพย์สินที่ให้ยืม
  • สัญญาฝากทรัพย์ คือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้ฝาก ส่งมอบทรัพย์สินให้แก่บุคคลหนึ่งเรียกว่าผู้รับฝาก และผู้ฝากตกลงว่าจะเก็บทรัพย์สินนั้นไว้แล้วจะให้คืน
  • สัญญาค้ำประกัน คือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้ค้ำประกัน ผูกพันธ์ตนต่อเจ้าหน้าที่เพื่อชำระหนี้เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้
  • สัญญาจำนอง คือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้จำนอง เอาทรพย์สินตราไว้กับบุคคลหนึ่ง เรียกว่าผู้รับจำนองเป็นประกันการชำระหนี้โดยไม่ส่งมอบทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้รับจำนอง
  • สัญญาจำนำ คือสัญญาที่บุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้จำนำ ส่งมอบสังหาริมทรพย์ให้แก่บุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้รับจำนำ เพื่อประกันการชำระหนี้
  • สัญญาเก็บของในคลังสินค้า คือ สัญญาที่บุคคลหนึ่ง เรียกว่า นายคลังสินค้า รับทำการเก็บสินค้าเพื่อบำเหน็จในการค้าปกติของตน
  • สัญญาตัวแทน คือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า ตัวแทน มีอำนาจทำการแทนอีกคนหนึ่ง เรียกว่าตัวการ และตกลงจะกระทำการนั้น
  • สัญญานายหน้า คือบุคคลซึ่งทำสัญญาหนึ่งเรียกว่าตัวการเพื่อทำหน้าที่เป็นคนกลาง
  • สัญญาประนีประนอมยอมความ คือ สัญญาทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาท ซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้น ให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน
  • สัญญาการพนัน และขันต่อไม่ถือว่าเป็นบ่อเกิดหนี้ สิ่งที่ได้ให้กันในการพนันหรือขันต่อก็จะทวงคืนไม่ได้
  • สัญญาบัญชีเดินสะพัด คือ สัญญาซึ่งบุคคล 2 คนตกลงกันว่าจะสืบแต่นั้นไป หรือในช่วงเวลากำหนดให้ตัดทอนบรรชีหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนแต่ถึงการในระหว่างเขาทั้งสองหักกลบลบกัน และคงชำระแต่ส่วนที่จะเป็นจำนวนคงเหลือ
  • สัญญาประกันภัย คือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งตกลงจะจ่ายเงินสินไหมทดแทนหรือใช้เงินเมื่อเกิดวินาศภัยหรือเหตุอย่างอื่นในอนาคตดังระบุไว้ในสัญญา และบุคคลอีกคนหนึ่งตกลงจะส่งเงินเรียกว่าค่าเบี้ยประกัน
  • สัญญาตั๋วเงิน มี 3 ประเภท คือ
               - ตั๋วแลกเงิน คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลหรือเรียกว่าผู้สั่งจ่าย สั่งบุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า จ่ายให้ใช้เงินแก่บุคคลหนึ่ง หรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลหนึ่งเรียกว่าผู้รับเงิน
               - ตั๋วสัญญาใช้เงิน คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่าผู้ออกตั๋ว ให้คำมั่นว่าจะใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่บุคคลหนึ่งเรียกว่าผู้รับเงิน
               - เช็ค คือ หนังสือตราสารซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่าผู้สั่งจ่ายสั่งธนาคารให้ใช้เงินจำนวนหนึ่ง เมื่อทวงถามแก่บุคคลหนึ่งเรียกว่าผู้รับเงิน


  • สัญญาหุ้นส่วนและบริษัท คือสัญญาซึ่งบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปตกลงเข้ากันเพื่อทำกิจกรรมร่วมกันด้วยประสงค์จะแบ่งกำไรที่พึงได้แต่กิจการทำนั้น

    อ้างอิงรูปภาพจาก stock2morrow.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น